สาวดับปริศนาในห้องหักพร้อมรอยฟกช้ำ-บุหรี่จี้ ส่วนคนเช่าผู้ชายหายตัวไป

สาวดับปริศนาในห้องหักพร้อมรอยฟกช้ำ-บุหรี่จี้ ส่วนคนเช่าผู้ชายหายตัวไป

เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา (11 ก.ค.) ตำรวจอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตในห้องพัก ในอ.บางปะอิน โดยที่เกิดเหตุเป็นห้องพักหมายเลข A211 บนชั้น 2 ของอาคาร 6 ชั้น ประตูห้องล็อกจากและใส่กลอนจากด้านใน เมื่อเปิดเข้าไปก็เจอร่างหญิงสาวอายุประมาณ 25-30 ปีนอนหงายอยู่บนพื้นห้อง สวมเสื้อคอกลมสีชมพู ท่อนล่างสวมใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว สภาพบริเวณลำตัวมีรอยฟกช้ำ ตามแขน ขา และก้น มีรอยจุดๆ คล้ายกับถูกบุหรี่จี้ หลายแห่ง

เจ้าหน้าที่ระบุว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ส่วนภายในห้องพบที่นอนขนาดเล็ก และเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งแขวนอยู่บนราวตาก แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นใดๆ

ก่อนหน้านี้ ผู้เช่าหอพักได้กลิ่นเหม็นเน่าจึงได้แจ้งกับแม่บ้าน และมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแต่พบว่าห้องถูกล็อกจากข้างใน ห้องนี้มีชายคนหนึ่งเป็นผู้เช่ามาได้ 2 เดือนแล้ว และค้างค่าเช่าอยู่ 1 เดือน ทางหอพักได้ขอสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อทำสัญญาเช่า แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่นำเอกสารมาให้ มีการผัดมาหลายครั้ง จึงยังไม่ได้ทำสัญญา ทำให้ไม่รู้ตัวว่าเป็นใครมาจากไหน

ส่วนหญิงสาวนั้น ทางหอพักเล่าว่าได้ย้ายมาอยู่ด้วยช่วงหลัง แต่ผู้เช่าหอพักคนอื่นๆ ใกล้เคียง ระบุว่าไม่พบความผิดปกติใดๆ และไม่เคยเห็นผู้เสียชีวิตมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อตามหาตัวชายผู้เช่ามาสอบสวน พร้อมทั้งประสานงานหาญาติของหญิงสาวรายนี้ และส่งร่างไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี

จากกรณีที่เด็กหยิงวัย 16 ปีเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจ.ชัยภูมิว่าตนและแม่ถูก นายนิยม สระสิทธิ์ ผู้อำนวยการองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ (ภาคประชาชน) ข่มขืนจนแม่ตรอมใจ โรคประจำตัวกำเริบเสียชีวิต ล่าสุดวานนี้ (9 ก.ค.) ตำรวจได้รวบตัวนายนิยมหลังได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชัยภูมิในข้อหาพรากผู้เยาว์

ก่อนหน้านี้ นายนิยมได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ในข้อหายักยอกทรัพย์เงินบริจาค ซึ่งถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ ส่วนข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ขณะนั้น ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะพนักงานสอบสวนเพียงลงบันทึกประจำวันไว้ อีกทั้ง ยังไม่มีการสอบปากคำตัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย เพราะต้องรอสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และตอนนั้น นายนิยมได้วางหลักทรัพย์ประกันตัวที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ เป็นวงเงิน 4 หมื่นบาท ศาลจึงให้ปล่อยตัวไปชั่วคราว ระหว่างนี้ ตำรวจยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และจะนำตัวนายนิยมไปศาลเพื่อขออนุญาตฝากขังในวันพรุ่งนี้

ฮือฮา! พระถือลูกซองเข้าช่วยตัวประกัน

วันนี้ (10 ก.ค.) มีกระแสฮือฮาเกี่ยวกับคลิปวีดิโอจากเพจ ‘โม่งดำ’ ที่เผยแพร่นาทีพระภิกษุรูปหนึ่ง วิ่งฉิว จีวรปลิว ถือปืนลูกซองเข้าช่วยเหลือตัวประกัน รายงานระบุว่าเหตุดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 4 ก.ค. ที่ปั๊มน้ำมันปตท.ใน อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เป็นเหตุซึ่งหน้าที่มีการแจ้งว่า สามีจับภรรยาจี้เป็นตัวประกัน และได้มีการขอกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเข้าระงับเหตุ ซึ่งพระรูปนี้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็เป็นตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษก่อนจะมาบวชจึงได้เข้าช่วยเหลือ

โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา พระรูปดังกล่าวก็ถึงกำหนดลาสิกขาพอดี จึงได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุชื่อสั้นๆ ว่า ‘ทิดกอล์ฟ’ และเผยว่าตนบวชเป็นพระได้ประมาณ 20 วัน ที่วัดแห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ในวันเกิดเหตุ เพื่อนตำรวจมารับตนไปซื้อของในปั๊มดังกล่าว และขณะซื้อของอยู่ก็ได้รับแจ้งการจี้ตัวประกัน เมื่อเพื่อนบอกว่าไม่สามารถไปส่งที่วัดได้ ตนจึงตัดสินใจสวมเสื้อเกราะ และเข้าเสริมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยตัวประกัน อย่างไรก็ตาม ปืนลูกซองกระบอกดังกล่าวที่ถือ เป็นปืนของผู้ก่อเหตุที่ทำตกไว้

จากการสอบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ นางกรวรรณ เจริญสุข เล่าว่า ช่วงเย็นของวันเกิดเหตุ นางสำเริง วงศ์มณี อายุ 58 ปี แม่บ้านของปั๊มดังกล่าว นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ และถูกสามีคือนายเอื้อน อายุ 60 ปี ใช้มีดจี้เป็นตัวประกัน พร้อมพูดว่าจะไม่ยอมให้นางสำเริงเลิกรากับตน โดยตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานก็ไม่สำเร็จ จนเวลาเริ่มค่ำ

ตำรวจเห็นว่าภายในออฟฟิศมืด จึงเจรจาขอเปิดไฟ และทำให้นายเอื้อนตกใจ นางสำเริงจึงถือโอกาสนี้หลบหนีออกมา นายเอื้อนอยู่คนเดียวภายในเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะวิ่งหนีออกมาหน้าปั๊มน้ำมัน ทำให้เจ้าหน้าที่รวมถึงพระภิกษุรูปดังกล่าววิ่งตามไปเพื่อจับกุมตัว

ทิดกอล์ฟระบุว่านายเอื้อนพยายามจะจับคนอื่นเป็นตัวประกันด้วย แต่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้ ขณะที่ตนได้ถือปืนดังกล่าวเพื่อควบคุมสถานการณ์อยู่ในระยะ 3 เมตร เนื่องจากมีรายงานว่า ชายคนดังกล่าวอาจมีทั้งมีดและปืน

54 ปีที่รอคอย ‘มอริส เค’ ได้เจอพ่อแล้ว! หลังจากตามหาคุณพ่อแท้ๆ มานานหลายปี ดาราลูกครึ่งอย่างมอริส เค ก็ได้รับข่าวดีเสียที โดยล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยภาพพ่อแท้ๆ เปรียบเทียบกับใบหน้าของตัวเอง ที่ละม้ายคล้ายกันมาก โดยคุณพ่อของ มอริส เค น่าจะอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และเจ้าตัวก็ระบุว่าอยากบินไปเจอเร็วๆ พร้อมทั้งระบุข้อความใต้ภาพว่า

54 ปีที่รอคอย…วันเกิดปีนี้ได้รับคำอวยพรจากพ่อแท้ๆ ของตัวเอง” พร้อมแฮชแท็ก #ผมมีพ่อแล้วครับ #หล่อได้พ่อ #สวยได้แม่ #อยากบินไปกอดพ่ออย่างไว #ดีใจสุดขีด